โรค Office Syndrome
นพ.
Pictures
ใช้นิ้วมือข้างขวา (นิ้วชี้, นิ้วกลาง, นิ้วนาง) นวดคลึงบริเวณกล้ามเนื้อหน้าอกข้างซ้าย กรณีนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อหน้าอก 8. ใช้นิ้วมือข้างขวา (นิ้วชี้, นิ้วกลาง, นิ้วนาง) กดนวดจากแนวกล้ามเนื้อบ่าด้านซ้ายและแนวกล้ามเนื้อต้นคอสิ้นสุดที่ฐานกระโหลกศีรษะ กรณีนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบ่า ต้นคอ ทำให้ให้เลือดลมไปเลี้ยงบริเวณศีรษะเพิ่มมากขึ้น 9. นวดสลับข้างจากข้างซ้ายเป็นข้างขวา โดยเริ่มจากขั้นตอนที่ 1 – 8 10. ให้นำมือทั้งสองข้างประสานไว้ที่ท้ายทอย แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดนวดตามแนวกล้ามเนื้อต้นคอทั้งสองข้างพร้อมกัน โดยกดนวดตั้งแต่ฐานคอขึ้นไปสิ้นสุด ที่ฐานกระโหลกศีรษะ กรณีนี้ช่วยบรรเทาอาการตาพร่ามัว 11. ใช้นิ้วมือทั้งสองข้างนวดคลึงให้ทั่วศีรษะ คล้ายลักษณะการสระผม กรณีนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดรอบ ๆ ศีรษะ ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ 12. ทำท่ากายบริหาร ฤๅษีดัดตนแก้เกียจ โดยประสานมือไว้บริเวณหน้าอก ดัดยืดแขนออกไปทางด้านซ้าย หน้ามองตรง ดัดออกไปทางด้านขวา ดัดออกไปทางด้านหน้า และดัดวาดแขนยืดขึ้นไปด้านบน พร้อมกับโน้มเอียงตัวไปทางด้านซ้ายและขวา กรณีนี้เป็นการยืดกล้ามเนื้อบ่า ไหล่ แขน หลัง หน้าอก และ ชายโครง 13.
Movie
ท่าหมุนข้อไหล่ โดยยกแขนหมุนไปทางด้านหลัง ซ้ายและขวา โดยทำทีละข้าง 5 – 10 ครั้ง จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณ ข้อไหล่ บ่า หน้าอก สะบัก คลายตัว ทำให้เลือดลมไหลเวียนบริเวณดังกล่าวได้ดีขึ้น นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า การนวดและบริหารร่างกาย 13 ขั้นตอนที่ได้แนะนำ หากท่านทำเป็นประจำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ระหว่างการนั่งทำงาน โรคปวดกล้ามเนื้อต้นคอ บ่า และหลัง ช่วง Work From Home จะไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ทำให้ท่านสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข ต่อไป
- โรค office syndrome prémenstruel
- สถิติ โรค office syndrome
- วิธีแก้โรค office syndrome เริ่มต้นได้จากตัวเราเอง - room life
- โรค office syndrome videos
Video
เพื่อเสริมสร้างให้บุคลากรคณะวิศวกรรมศาสตร์ ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแล สุขภาพ 2. เพื่อเสริมสร้างให้บุคลากรคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีสุขภาพที่แข็งแรง ขั้นตอนการดำเนินการ 1. ประชุมกลุ่มเพื่อระดมความคิดเห็น วิเคราะห์หารากและสาเหตุของปัญหา โดยเลือกหัวข้อ อาการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุจากงานที่ทำเป็นประจำ ซึ่งเกิดจากอาการ ป่วยเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย 2. จัดทำแบบประเมินก่อนการดำเนินโครงการ โดยส่งแบบสอบถามให้กับบุคลากร ส่วนกลาง จำนวน 147 คน และมีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 117 คน 3. ร่วมพัฒนาและออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสม โดยได้จัดทำคลิปวิดีโอสั้นความยาว ไม่เกิน 3 นาที เนื้อหาในคลิปวิดีโอจะเกี่ยวกับการนั่งทำงานที่ถูกวิธีและอัพโหลดไว้ ที่หน้าเว็บเพจ เพื่อให้บุคลากรได้ดูเป็นความรู้ 4. ประเมินผลการจัดกิจกรรม (อยู่ระหว่างดำเนินการ) รูปที่ 1. วิเคราะห์หารากและสาเหตุของปัญหา สรุปผลการดำเนินงาน 1. จัดทำแบบสอบถามก่อนการดำเนินโครงการ โดยส่งแบบสอบถามให้กับบุคลากร ส่วนกลาง จำนวน 147 คน และมีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 117 คน สรุปได้ดังนี้ – ผู้ตอบแบบสอบถาม เพศชาย จำนวน 30 คน (25. 6%) และเพศหญิง จำนวน 87 คน (74. 4%) – ช่วงอายุของผู้ตอบแบบสอบถามจะอยู่ที่ระหว่าง 30-39 ปี และ 40-49 ปี (32.
การรักษาด้วยตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่ควรนั่งติดกันเป็นเวลานาน ปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม การยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง 2. การรักษาทางกายภาพบำบัด การรักษาทางกายภาพบำบัด การรักษามือนักกายภาพบำบัด (Manual Technique) การรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น อัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) การกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical stimulation) เลเซอร์ (Laser) คลื่นกระแทก (Shock wave) คลื่นสั้น (Short wave) การออกกำลังกายเพื่อการรักษา (Therapeutic exercise) การรับคำแนะนำอื่นๆ เช่น การยืดกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม การลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ไม่จำเป็น 3. แนวทางการรักษาทางด้านอื่น ๆ เช่น การนวด การฝังเข็ม การรับประทานยา การป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกของโรคนี้ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ควรที่จะต้อง • ปรับที่พฤติกรรมการทำงาน ให้มีเวลาพัก • ปรับและจัดท่าทางการทำงานให้เหมาะสม • ยืดกล้ามเนื้อ • ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง • ดื่มน้ำให้เพียงพอ • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ • พักผ่อนให้เพียงพอ • ฝึกผ่อนคลายความเครียด สนใจรักษาอาการออฟฟิศซินโด (Office Syndrome) ติดต่อ KIN (คิน) - Rehabilitation & Homecare โทร.